rungraveewan


ตอบ ความหมายของ Lan (Local Area Network)

  • วสิทธิ์ อึ้งภากรณ์ ให้ความหมายของ Lan คือ การเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นข่ายเฉพาะบริเวณที่ไม่กว้างขวางนัก
  • Beauchamp, K.G. ให้ความหมาย Lan คือ การเชื่อมต่ออุปกรณ์การสื่อสารข้อมูลภายในบริเวณขนาดเล็ก

    สรุป ความหมายของ Lan เป็นระบบเครือข่ายขนาดเล็กที่ใช้ในการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ในบริเวณใกล้เคียงเข้าด้วยกัน เช่น ในห้อง 1 ห้อง หรือ ในชั้น 1 ชั้น โดยทั่วไป LAN จะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเชื่อมต่อกันระหว่างเครื่อง PC กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในอาคารเพื่อจะทำการใช้ข้อมูล และอุปกรณ์ที่มีราคาแพง เช่น เครื่องพิมพ์เลเซอร์ ร่วมกัน ในระบบโรงงานจะมีการใช้ระบบ LAN มาก โดยการเชื่อมโยงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับ เครื่องจักรที่ควบคุมด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ๆ ส่วนประกอบที่สำคัญมากในระบบ LAN คือ File Server (File Serve เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นบรรณารักษ์ดูแลว่าอะไรอยู่ที่ไหนด้วยการจัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมตลอดจนกำหนดวิธีการในการเข้าถึงข้อมูล ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ Serve จะต้องมีโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็นระบบปฏิบัติการเครือข่าย หรือ NOS (Network Operating System) เช่น Novell Netware, Windows NT, Unix เป็นต้น ระบบเครือข่ายแบบนี้สามารถส่งข้อมูลได้จำนวนมาก โดยการส่งผ่านสื่อที่มีความเร็วสูง เช่นสายทองแดงแบบแกนกลาง (Coaxial Cable) เส้นใยนำแสง (Fiber Optic) หรือ สายแบบเกลียวคู่ (Twisted Pair) โดยทั่ว ๆ ไปมีวิธีการ 2 วิธีในการเชื่อมโยงข้อมูลใน LAN วิธีการแรกเรียกว่า Token passing ซึ่งจะส่งสัญญาณเป็นวงกลมโดยรอบ และถ้าสถานีใดต้องการส่งสัญญาณจะทำการจอง Token ไว้และส่งสัญญาณไปยังสถานีเป้าหมาย หลังจากส่งสัญญาณเสร็จแล้ว Token จะถูกปล่อยเป็นอิสระอีกครั้ง และพร้อมที่จะรับสัญญาณต่อไป รูปร่างของ Network

    Topology

    1. Star topology จะมีการต่อสายส่งข้อมูลในรูปแบบดาว นั่นคือมีสายต่อออกจากศูนย์กลาง (File Server ไปยัง Workstation แต่ละตัวถ้า Workstation ใดเสียก็จะมีผลต่อ Workstation นั้นเท่านั้น ไม่มีผลต่อ Workstation อื่น

    Star Topology

    ข้อดี

  • ง่ายต่อการติดตั้งระบบเพราะ Workstation หนึ่งตัวต่อสายส่งข้อมูลหนึ่งเส้น
  • Workstation ตัวใดเสียไม่กระทบกระเทือนต่อ Workstation อื่น ข้อเสีย

  • สิ้นเปลืองสายส่งข้อมูล เพราะทุก Workstation จะต่อโดยตรงกับศูนย์กลางจึงทำให้ค่าใช้จ่ายกับเรื่องสายส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นเมื่อมีการติดตั้ง Workstation ใหม่และค่าบำรุงรักษา
  • ถ้าจุดศูนย์กลางเสีย (File Server) ทำให้ทั้งระบบต้องหยุดชะงักไม่สามารถทำงานได้

    2. Ring Topology จะมี Workstation ต่อกันเป็น Loop โดยที่ Workstation สุดท้ายจะต่อเข้ากับ Workstation แรกทำให้เป็นรูปวงแหวน ข้อมูลที่ส่งจะเป็นรูปของ Packet ผ่านทุก Workstation

    Ring Topology

    ข้อดี

  • ใช้สายส่งข้อมูลน้อย
  • เหมาะสมกับการใช้ Optical fiber ในการส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง ข้อเสีย

  • ถ้า Workstation ตัวใดตัวหนึ่งเสียจะทำให้เสียทั้งระบบจนกว่าจะนำเอา Workstation ที่เสียออกจากระบบจึงจะใช้ได้
  • ยากต่อการตรวจสอบข้อผิดพลาดเพื่อดูว่าจุดใดเสีย

    3. Bus Topology มีสายส่งข้อมูลสายเดียวเรียก Bus หรือ Trunk ทุก Workstation ต่อกับ Bus และปลายทั้งสองข้าง Bus จะมีตัวปิดเรียกว่า Terminator เพื่อดูดกลืนสัญญาณไม่ให้สะท้อนกลับรบกวนการส่งข้อมูล

    Bus Topology

    ข้อดี

  • ใช้สายส่งข้อมูลน้อยและมีรูปแบบที่ง่าย
  • ง่ายต่อการเพิ่ม Workstation เข้าในระบบ
  • เพื่อ Workstation ตัวใดเสียก็ไม่ทำให้ระบบต้องเสียไปด้วย ข้อเสีย

  • ถ้าสายส่งข้อมูลเสีย ทำให้ระบบใช้ไม่ได้
  • การหาข้อผิดพลาดของระบบทำได้ยาก เพราะต้องตรวจสอบข้อผิดพลาดทุกจุด

    คุณสมบัติของ LAN จะแบ่งเป็น ขนาดตามการใช้งาน ดังนี้ :-

    ขนาดลักษณะการใช้งาน

    เล็ก : แผนกหรือฝ่ายภายในชั้นเดียวกัน

    กลาง : บริษัท หลายชั้นในตึกเดียวกัน

    ใหญ่ : Campus ในมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล หรือบริษัทขนาดใหญ่

    อัตราความเร็ว : 1 - 100 Mbps ต่อวินาที

    อัตราความผิดพลาดต่ำ :1 ใน 10

    ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 5,000 บาทต่อจุดขึ้นไป

    ประโยชน์ของ LAN

    1. ใช้ทรัพยากรร่วมกัน ทั้งด้าน Hardware และ Software ถึงแม้ว่า microcomper ราคาถูกลง แต่อุปกรณ์ข้างเคียง (Peripheral) เช่น printer, Harddisk ฯลฯ ยังมีราคาแพง จึงสมควรใช้ร่วมกัน

    2. สามารถใช้ program และ data ที่สร้างขึ้นร่วมกันได้ เช่น สามารถจัดเก็บ program และ date ที่สร้างขึ้นไว้ที่ microcomputer ที่ทำหน้าที่ให้บริการ (Server) และ workstation จะสามารถดึงเอา program และ data ไปใช้งานโดยรวดเร็ว เมื่อต้องการแสดงผลก็จะส่งผลไปพิมพ์ที่เครื่องพิมพ์ที่ใช้งานร่วมกัน

    3. สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ เช่น ในระบบ Office Automation นั้น งานด้านตลาดงานด้านธุรการ ด้านการเงิน ฯลฯ จะใช้ microcomputor ของตนเอง และเชื่อมโยง microcomputer เข้าด้วยกัน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ทำให้สะดวกในการควบคุมระบบ ตลอดจนใช้ในการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และถูกต้อง

    4. การทำงานของระบบมีความไว้วางใจมากขึ้น เช่น เครื่อง Microcomputer เครื่องใดเสียก็สามารถใช้เครื่อง Microcomputer อื่นแทนได้ ทำให้การทำงานของระบบมีความต่อเนื่องและทันเหตุการณ์

    5. ประหยัดเงิน โดยสามารถจัดซื้อเครื่อง Microcomputer ทำหน้าที่ Workstation ให้เหมาะสมกับชนิดและปริมาณของงาน และสามารถใช้อุปกรณ์ที่มีราคาแพงร่วมกัน

    6. สะดวกต่อการสรรหาบุคลากรที่สามารถทำงานบน Microcomputer ได้ง่ายกว่าบุคคลากรที่สามารถทำงานบน Minicomputer