ตอบ Wan (Wide Area Network) คือ เครือข่ายที่เชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายแลนแบบต่าง ๆ ที่อยู่ต่างพื้นที่หลาย ๆ เครือข่ายและระยะทางที่ห่างไกล อาจจะเป็นหลาย ๆ กิโลเมตร จนถึงระดับประเทศ ทวีป ดังนั้นความเร็วในการเชื่อมโยง เครือข่าย LAN แบบอีเทอร์เน็ต มีการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 10-100 Mbps. มีพื้นฐานรูปแบบการเชื่อมโยงร่วมกันแบบบัส คือ ทุกอุปกรณ์จะเชื่อมต่อกันบนสายสัญญาณเส้นเดียว ดังนั้น การรับส่งต้องมีการจัดการไม่ให้รับส่งพร้อมกันเกินกว่าหนึ่งคู่ ขบวนการรับส่งข้อมูลจึงถูกกำหนดขึ้น โดยให้อุปกรณ์ที่จะส่งข้อมูลตรวจสอบว่ามีข้อมูลใดวิ่งอยู่บนสายหรือไม่ หากไม่มีจึงส่งได้ และถ้ามีการชนกันของข้อมูลบนสายก็จะส่งใหม่ การหลีกเลี่ยงการชนกันจึงกระทำได้ในเครือข่ายระยะใกล้
เครือข่าย LAN แบบโทเก็นริง มีความเร็ว 16 Mbps. เชื่อมต่อกันเป็นวงแหวนโดยแพ็กเก็ตข้อมูลจะวิ่งวนในทิศทางใดทางหนึ่ง ถ้าทีแอดเดรสปลายทางเป็นของใคร อุปกรณ์นั้นจะรับข้อมูลไป การจัดการรับส่งข้อมูลในวงแหวนจึงเป็นไปอย่างมีระเบียบ
เครือข่าย LAN ที่อยู่ในมาตรฐานเดียวกันสามารถเชื่อมโยงเข้าหากัน แต่ทุกตัวจะมีแอดเดรสประจำและแอดเดรสเหล่านี้จะซ็กันไม่ได้ โดยปกติผู้ผลิตอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายได้กำหนดแอดเดรสเหล่านี้มาให้แล้วเพื่อจะให้เชื่อมโยงเครือข่ายต่างมาตรฐานกันได้นั้น มีวิธีการพัฒนาให้ระบบสามารถนำแพ็กเก็กเฉพาะของเครือข่ายมาใส่ในแพ็กเก็ตกลางที่เชื่อมโยงระหว่างกันได้ เช่น TCP/IP ตัวอย่าง เช่น ถ้าต้องการเชื่อมเครือข่าย LAN หลาย ๆ เครือข่ายเข้าด้วยกันให้เป็นเครือข่ายเดียวกันเครือข่าย อีเทอร์เน็ตมีแพ็กเก็ตเฉพาะเมื่อจะส่งออก ก็นำแพ็กเก็ตเฉพาะมาเปลี่ยนถ่ายลงในแพ็กเก็ต TCP/IP แล้วส่งต่อ… แพ็กเก็ต TCP/IP จึงเป็นแพ็กเก็ตกลางที่พร้อมรับแพ็กเก็ตย่อยอื่นได้ ดังนั้นการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย เช่น อีเทอร์เน็ตในปัจจุบันจึงเกิดขึ้นได้
WAN
อยู่ในระดับช่วง 9.6-64 Kbps และ 1.5-2 Mbps ขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชั่นและขนาดของข้อมูลทั้งเครือข่ายแบบ LAN และ WAN ล้วนแล้วแต่ใช้หลักการของแพ็กเก็ตสวิตชิ่ง กล่าวคือ มีการกำหนดวิธีการรับส่งข้อมูลเป็นแพ็กเก็ต โดยให้แต่ละอุปกรณ์มีแอดเดรสประจำ วิธีการรับส่งมีได้หลากหลายเราเรียกวิธีการว่า "โปรโตคอล (Protocol)" ดังนั้น จึงมีมาตรฐานการเชื่อมโยงระยะไกลมีการกำหนดแอดเดรส เช่นในเครือข่าย X.25 ข้อมูลจากที่หนึ่งส่งเป็นแพ็กเก็ตส่งต่อไปยังปลายทางได้ข้อมูลเป็นแพ็กเก็ตจากจุดเริ่มต้น มีแอดเดรสกำกับตำแหน่งปลายทางและตำแหน่งต้นทางแอดเดรสเหล่านี้เป็นรหัสที่รับรู้ได้ อุปกรณ์สวิตช์จะเลือกทางส่งไปให้ หากมีปัญหาใดทำให้ปลายทางรับได้ไม่ถูกต้อง เช่น มีสัญญาณรบกวน ระบบจะมีการเรียกร้องให้ส่งให้ใหม่เพื่อว่าการรับส่งข้อมูลจะต้องถูกต้องเสมอ ระบบการโต้ตอบเหล่านี้จึงเป็นมาตรฐานที่กำหนดของเครือข่ายนั้น
PUBLIC WAN
ดังนั้น เครือข่าย WAN จึงเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างองค์กร ระหว่างเมือง หรือระหว่างประเทศและเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพจึงมีองค์กรกลางหรือผู้ให้บริการเครือข่ายสาธารณะเข้ามาช่วยจัดการเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น เครือข่ายสาธารณะที่ใช้ร่วมกันของ ทศท. และกสท. หรือ เครือข่ายบริการ เช่น ดาต้าเนต เป็นต้น เครือข่ายในปัจจุบันมีการเชื่อมเครือข่าย LAN หลาย ๆ เครือข่ายย่อยเข้าด้วยกัน จะเป็นอีเทอร์เน็ตหรือโทเก็นริงก็ได้ แล้วยังเชื่อมต่อออกจากองค์กรผ่านเครือข่าย WAN ทำให้เครือข่ายทั้งหมดเชื่อมโยงถึงกัน จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายให้มีความเร็วสูงในการรับส่งข้อมูล ซึ่งเครือข่าย WAN ที่ใช้ตัวกลางเป็นเส้นใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) สามารถส่งรับข้อมูลได้เร็วไม่น้อยกว่าเครือข่าย LAN การพัฒนาเทคโนโลยีบนถนนเครือข่าย LAN และ WAN จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และเป็นโครงสร้างพื้นฐานของการพัฒนาประเทศ ซึ่งจะไปได้ไกลเพียงใด ขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของประเทศ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ก็เป็นโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งที่ต้องพัฒนาไปด้วย คำว่า Information Super Highway ก็คือถนนเครือข่าย WAN ที่เชื่อม LAN ทุกเครือข่ายเข้าด้วยกันนั่นเอง
รูปที่ 1 แสดงการเชื่อมโยงของเครือข่ายแวน
อุปกรณ์ในระบบเครือข่ายแลน
อุปกรณ์สำหรับระบบเครือข่ายแลนแบ่งเป็นส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ (Hardward) และ ซอฟต์แวร์ (Software) ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ฮาร์ดแวร์ เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับสร้างระบบเครือข่ายแลนคือ
แผ่นการ์ดเครือข่าย แผ่นการ์ดเครือข่าย หรือแผ่นการ์ด NIC เป็นแผ่นการ์ดอินเตอร์เฟสสำหรับเครือข่าย (NIC ย่อมาจาก Network Interface Card) ซึ่งติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์ แผ่นการ์ดเครือข่ายขึ้นอยู่กับแบบของเครือข่ายแลนและขึ้นกับชนิดของไมโครคอมพิวเตอร์ สำหรับแผ่นการ์ดเครือข่ายแบบอีเทอร์เน็ตได้แก่แผ่นการ์ดต่อไปนี้ EtherCard Plus Elite 32 - EtherExpress EtherTwist EISA - NE3200
ส่วนแผ่นการ์ดเครือข่ายแบบทอกเก้นริงได้แก่แผ่นการ์ดต่อไปนี้
IBM Token Ring Network 16/4 Adapter -ProNET p1990 4/16 Smart 16/4 EISA Ringnode NIC - EISA NIC
สายเคเบิลเครือข่าย เป็นสายเคเบิลสำหรับเชื่อมโยงระหว่างแผ่นการ์ดเครือข่ายที่ติดตั้งในคอมพิวเตอร์ ซึ่งขึ้นกับแบบของเครือข่ายแลนและขึ้นกับลักษณะของการเชื่อมต่อ สำหรับสายเคเบิลที่ใช้ในเครือข่ายแบบอีเทอร์เน็ตแบ่งตามลักษณะการต่อได้ 4 ลักษณะดังนี้
1. การต่อแบบ Thick Ethernet
2. การต่อแบบ Thin Ethernet หรือเรียกว่า Cheapnet
3. การต่อแบบ Twist Pair Ethernet และ
4. การต่อแบบ Fibre Optic Thich Ethernet
สำหรับสายเคเบิลที่ใช้ในเครือข่ายแบบท็อกเก้นริงแบ่งเป็น 9 แบบคือ
Type 1 -Type 2 -Type 3 Type 4 -Type 5 -Type 6 Type 7 -Type 8 -Type 9