rungraveewan


ตอบ "อินเตอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก โดยมี มาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ตัวอักษร, ภาพและเสียงได้ รวมทั้งสามารถค้นหาข้อมูลจากที่ต่าง ๆ ได้อย่าง รวดเร็ว" อินเตอร์เน็ตประกอบด้วยองค์ประกอบ 2 ส่วนหนึ่งคือเครือข่ายที่เชื่อมคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน และส่วนที่สองคือข้อมูลที่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องเก็บเอาไว้ พร้อมกับมีความสามารถที่ช่วยให้เราค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ในเวลาอันสั้น

สิ่งสำคัญอีกอันหนึ่ง คือ อินเตอร์เน็ตมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นหนึ่งเดียวทำให้การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์คนละชนิด, คนละแบบ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเมนเฟรมคอมพิวเตอร์, มินิคอมพิวเตอร์, คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพีซี, แมคอินทอช หรือเครื่องแบบใด ๆ ก็ตาม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคอมพิวเตอร์ที่ประกอบกันเข้าเป็นเครือข่ายหลักของอินเตอร์เน็ตมักจะเป็นระบบเครือข่ายของมินิคอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network หรือ LAN) และเครือข่ายของเมนเฟรมคอมพิวเตอร์บางคนจึงเรียกอินเตอร์เน็ตว่าเป็น "เครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์" (Network of Networks) ส่วนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั้งหลายนั้นมักจะไม่ได้ต่ออยู่กับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา เพียงแต่เชื่อมต่อเข้าไปเป็นครั้งคราวตามความต้องการใช้งานเท่านั้น

Internet เป็นเครือข่ายที่ดำเนินการให้บริการสื่อสารข้อมูลในระดับทั่วโลก โดยที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของระบบนี้ เป็นผลจากการวิจัยและพัฒนาการทางทหารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ใน โครงการ ARPA (Advanced Project Research Agency) ในปี ค.ศ.1969 โดยการเริ่มจากการเชื่อมโยงข้อมูลใน 4 มหาวิทยาลัย ด้วยการใช้โปรโตคอลที่มีชื่อว่า TCP/IP (Transmission Control Protocal/Internet Protocol) ซึ่งต่อมาคำว่า Internet ได้กลายมาเป็นชื่อของระบบเครือข่ายในที่สุด จนกระทั่งปัจจุบันมีการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์กว่า 200 ล้านเครื่องและมากขึ้นเป็น 1-2 เท่าในทุกปี ระบบ Internet จะมีสารสนเทศแทบทุกประเภทที่มีในปัจจุบันในหลาย ภาษา (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ) ไม่ว่าจะเป็น ภาษาศาสตร์ วรรณคดี ศาสนา วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ บันเทิง

ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต

  • ด้านการศึกษา เราสามารถต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นคว้าหาข้อมูลได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการจากที่ต่าง ๆ ซึ่งในกรณีนี้อินเตอร์เน็ตจะทำหน้าที่เหมือนห้องสมุดขนาดยักษ์ ส่งข้อมูลที่เราต้องการมาให้ถึงบนจอคอมพิวเตอร์ที่บ้านหรือที่ทำงานของเราในเวลาไม่กี่วินาทีจากแหล่งข้อมูลทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์, วิศวกรรม, ศิลปกรรม, สังคมศาสตร์, กฎหมายและอื่น ๆ นักวิจัยอาจสั่งให้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยทำการประมวลผลข้อมูลของตนแล้วส่งรายงานกลับมาให้ได้ แม้ว่าเขาจะอยู่ในห้องทดลองที่อยู่ห้างออกไปหลายพันกิโลเมตร โดยใช้บริการของอินเตอร์เน็ต นักศึกษาในมหาวิทยาลัยสามารถติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งข้อมูลที่เป็นตัวอักษร, ภาพและเสียงหรือแม้แต่มัลติมีเดียต่าง ๆ
  • ด้านการรับส่งข่าวสาร ผู้ใช้ที่ต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตสามารถรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Mail กับผู้ใช้คนอื่น ๆ ทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็วได้โดยมีค่าใช้จ่ายต่ำมาก เมื่อเทียบกับการส่ง จดหมายหรือส่งข้อมูลวิธีอื่น ๆ นอกจากนั้นยังอาจส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แฟ้มข้อมูล, รูปภาพ ไปจนถึงข้อมูลแบบมัลติมีเดียที่เป็นภาพและเสียงได้อีกด้วย หรือาจก๊อปปี้ไฟล์ที่เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งแจกฟรีจากที่ต่าง ๆ มาทดลองใช้งานก็ได้
  • ด้านธุรกิจและการค้า อินเตอร์เน็ตมีบริการในรูปแบบของการซื้อขายสินค้าผ่านคอมพิวเตอร์หรือ Teleshopping เราสามารถเลือกดูสินค้าพร้อมทั้งคุณสมบัติต่าง ๆ ผ่านจอคอมพิวเตอร์ของเราแล้วสั่งซื้อและจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตได้ทันที ซึ่งนับว่าสะดวกรวดเร็วมาก สินค้าที่มีจำหน่ายก็มีครบทุกประเภทเหมือนห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ เลยทีเดียว บริษัทต่าง ๆ จึงมีการลงโฆษณาขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น ทำให้ธุรกิจลักษณะนี้มีเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ นับเป็นการใช้งานอินเตอร์เน็ตเชิงพาณิชย์อย่างจริงจังจนบางแห่งถึงกับจัดทำแคตาล็อกอิเล็กทรอนิกส์เตรียมไว้ให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าก็มี อย่างไรก็ตามผู้ไม่มีบัติเครดิตต่างประเทศคงสั่งซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตได้ลำบากสักหน่อย ถ้าสินค้านั้นเป็นการสั่งซื้อจากผู้ขายที่อยู่ต่างประเทศ เพราะในประเทศไทยบริการแบบนี้อาจยังไม่แพร่หลายเท่าใดนัก

    นอกจากนี้ ผู้ใช้ที่เป็นบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการและสนับสนุนลูกค้า ของตนผ่านอินเตอร์เน็ตได้ เช่น การตอบคำถามหรือข้อสงสัยต่าง ๆ ให้คำแนะนำ รวมถึงการให้ข่าวสารใหม่ ๆ แก่ลูกค้าได้ รวมทั้งถ้าเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็อาจแจกจ่ายตัวโปรแกรม ทั้งตัวจริง ตัวทดลอง (Deme) ตัวแก้ไข (patch หรือ fix) และแม้กระทั่งเวอร์ชั่นใหม่ฯลฯ ผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้โดยตรงอีกด้วย ด้านบันเทิง และการพักผ่อนหย่อนใจหรือสันทนาการ เช่น เลือกอ่านวารสารต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตหรือที่เรียกว่าเป็น magazine แบบ online รวมถึงหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบ บนจอคอมพิวเตอร์เหมือนกับหนังสือปกติที่เราดูอยู่ทุกวัน วารสารรายใหญ่ ๆ ทั่วโลก ข่าว ไปจนถึงเรื่องคลายเคลียด เช่น แฟชั่น การ์ตูน หรือแม้แต่ข่าวเล่าลือ ที่ไม่ทราบที่มา บริการ ต่าง ๆ ในระบบอินเทอร์เน็ต มีตั้งแต่การรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การทำกลุ่มข่าวสาร (NewsGroup, Usenet), เครือข่ายใยพิภพ (World Wide Web) หรือ Web, IRC (Internet Relay Chat), Internet Phone, Teleconference, EDI, การเล่นเกมส์, การใช้และควบคุมคอมพิวเตอร์จากระยะไกล (Telnet), การโอนย้ายข้อมูล (FTP: File Transfer Protocol) และอื่น ๆ อีกมากมาย กล่าวได้ว่า ระบบ Internet เป็นเสมือนทางด่วนของสารสนเทศที่จะเข้ามาถึงทุกครอบครัวให้สามารถใช้แทนการสื่อสารในรูปแบบอื่น ๆ ในอนาคต

    อินทราเน็ต (INTRANET)

    เป็นเครือข่ายภายในองค์กรที่เปลี่ยนวิธีการในระบบ LAN ด้วยโปรโตคอลของระบบปฏิบัติการเครือข่ายเดิม ๆ เช่น IPX/SPX ไปเป็นการใช้โปรโตคอล TCP/IP เช่นเดียวกับระบบ Internet และด้วยความสามารถของโปรแกรมที่พัฒนาเพื่อใช้กับ Internet ได้ เพียงแต่ Intranet จะเป็นเครือข่ายปิด ใช้เฉพาะในองค์กรเท่านั้น ไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาอาศัย หรือ ดูข้อมูลได้ อย่างไรก็ดี ได้มีการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่ากำแพงเพลิง (Fire Wall) เพื่อกั้นการเข้าถึงข้อมูลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิจากภายนอกและสามารถให้ผู้ที่มีสิทธิภายในสามารถดูข้อมูลและค้นคืนข้อมูลจาก Internet ได้เหมือนเดิม

    ประโยชน์ของอินทราเน็ต (Intranet) สำหรับองค์กรมีดังนี้

  • เผยแพร่เอกสารที่ต้องการสื่อสารให้พนักงานทราบผ่านอินทราเน็ต โดยนำไปใส่ในเว็บ ซึ่งพนักงานสามารถเปิดดูได้โดยใช้บราวเซอร์ วิธีนี้จะสามารถประหยัดกระดาษและลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมหาศาล
  • ลดช่องว่างในการประสานงานระหว่างพนักงาน เราสามารถนำเสนอข้อมูลที่ต้องการให้ทีมงานออกความคิดเห็น และรวบรวมการตอบสนองที่ได้มาประมวลผลได้ทันที นอกจากนั้นเราสามารถสื่อสารความคืบหน้าของงาน ตามงาน และนัดเวลาการประชุมได้โดยผ่านอินทราเน็ต
  • สามารถเชื่อมต่อระบบอินทราเน็ตกับฐานข้อมูล ทำให้พนักงานสามารถใช้บราวเซอร์ค้นหา และสอบถามข้อมูลที่ต้องการได้ในทันที
  • ลดเวลาในการเรียนรู้ เพราะพนักงานที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นอยู่แล้วไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้อินทราเน็ต ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการอบรมพนักงานอย่างมาก

    EXTRANET

    เป็นแบบเดียวกับ Internet แต่ใช้เชื่อมโยงกันหลาย ๆ องค์กรเข้าด้วยกัน โดยทั่ว ๆ ไปจะ เป็นองค์กรที่ทำธุรกิจร่วมกัน ต่างจาก Internet ที่การใช้งานจำกัดขอบเขตเฉพาะกลุ่ม ตัวอย่าง เช่น กลุ่มธนาคาร จะมีเครือข่ายโอนเงินเป็นกลุ่มของตัวเอง (Swift)