3.1 อยากทราบว่า การสื่อสารแบบคลื่นที่ไร้สาย (Mobile Wireless Communication) แบ่งเป็นกี่ยุค มียุคอะไรบ้างและแต่ละยุคมีการสนับสนุนการสื่อสารแบบใดบ้าง (เช่น เสียง, ข้อมูลภาพ) จงอธิบายโดยละเอียดที่สุด
ตอบ ตามเอกสารอ้างอิงที่สืบค้นได้แบ่งเป็น 4 ยุค
ท่านอาจารย์เศรษฐพงค์สอน แบ่งเป็น 3 ยุค
ขออธิบายถึง การสื่อสารแบบไร้สาย (Wireless Communication) เพื่อทำความเข้าใจก่อน ดังนี้ ความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาการทำให้เกิดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้สายสัญญาณในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยอุปกรณ์เหล่านั้นเรียกว่า Wireless LAN หรือระบบเครือข่ายไร้สาย หลักการทำงานจะใช้ความถี่ของ คลื่นวิทยุในการส่งผ่านข้อมูลไปตามอากาศถึงเครื่องที่ต้องการ หรือเครื่องปลายทาง แต่เนื่องจากการ พัฒนายังอยู่ในระยะเริ่มต้นทำให้การส่งข้อมูลโดยสื่อชนิดนี้นั้นยังทำได้ไม่เร็วนัก และเครื่องที่อยู่ในเครือข่ายยังต้องอยู่ไม่ห่างกันมากนัก รวมถึงราคาของอุปกรณ์ยังสูงกว่าอุปกรณ์ทั่วไปอีกด้วย
ในการสื่อสารแบบ Wireless หรือไร้สายนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์พิเศษที่ทำการแปลงสัญญาณจากคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นสัญญาณ Digital ให้เป็นสัญญาณในรูปแบบของความถี่วิทยุ รวมถึงการส่งข้อมูลนี้ผ่านไปตามสายสัญญาณ (Medium) ซึ่งก็คืออากาศนั่นเองจนกระทั่งสัญญาณส่งไปถึงอุปกรณ์พิเศษอีกชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ HUB โดยอุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่เป็นตัวคอยรับข้อมูลที่ส่งมาจากต้นทางและทำการส่งไปยังปลายทางที่ถูกต้อง ในปัจจุบันเริ่มมีระบบเครือข่ายที่เชื่อมข้อมูลด้วยสัญญาณ Infrared แล้ว ลำดับขึ้นการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายเป็น 4 ยุค ดังนี้
ยุคที่ 1 (1G) ค.ศ. 1980-1990 ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคที่ 1 หรือ 1G นี้เป็นยุคที่เรียกว่า ช่วงเริ่มต้น (Initial Stage) การพัฒนามุ่งเน้นที่การสื่อสารเสียงพูด (Voice) เป็นหลัก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ระบบเซลลูล่าร์ (Cellular) และระบบไร้สาย (Cordless) ระบบโทรศัพท์ในยุคนี้มีคุณลักษณะและความมุ่งหมายที่สำคัญ ประกอบด้วย
เทคโนโลยี
เป็นแบบแอนะล็อก เซลลูล่าร์
การจัดเซล เป็นแบบ มาโครเซล (Macrocell)
มาตรฐาน มีหลายมาตรฐานที่สำคัญ ๆ เช่น NMT, TACS เครื่องลูกข่าย ตัวเครื่องลูกข่ายมีแบนด์เดียว (Single Band) การใช้งาน ใช้เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่/ ติดตั้งในรถยนต์ และใช้งานนอกสถานที่
ยุคที่ 2 (2G) ค.ศ. 1990-2000 ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคที่ 2 หรือ 2 G นี้เป็นยุคที่เรียกว่า ช่วงเติบโต (Growing Stage) การพัฒนายังคงมุ่งเน้นที่การสื่อสานเสียงพูด และในขณะเดียวกันมีการพัฒนาระบบให้สามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลความเร็วต่ำ (-64 Kbps) ได้ด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ เช่นเดียวกันคือ ระบบเซลลูล่าร์ ( Cellular) และระบบไร้สาย (Cordless) ระบบโทรศัพท์ในยุคนี้มีคุณลักษณะและความมุ่งหมายที่สำคัญ ประกอบด้วย
เทคโนโลยี
เป็นแบบดิจิตอล เซลลูล่าร์
การจัดเซล เป็นแลล มาโครเซล/ ไมโครเซล/ พิโกเซล และใช้เทคโนโลยี Enhanced Cordless ร่วมด้วย
นำเทคโนโลยีโครงข่ายอัจฉริยะ ( IN ) เข้ามาร่วมใช้งาน
มาตรฐาน มีหลายมาตรฐานที่สำคัญ ๆ เช่น พีดีซี จีเอสเอ็ม พีเอชเอส IS -95 IS-136 (D-AMPS) TDMA/N-CDMA NMT, AMPS และ TACS เครื่องลูกข่าย ตัวเครื่องลูกข่ายมีหลายโหมดหลายแบนด์ เช่น Dual-mode Dual band
ใช้ในการสื่อสารเสียงพูด ข้อความสั้น ๆ (Short Message) และการสื่อสารข้อมูล-ความเร็วต่ำ
ยุคที่ 2.5 (2.5G) ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคที่ 2.5 หรือ 2.5G นี้เป็นยุคที่เรียกว่า ช่วงคาบเกี่ยว กล่าวคือในช่วงที่การพัฒนา 2 G ไม่อาจพัฒนาต่อไปได้มากนักจนถึง 3 G (ถึงขึ้นตอนของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีดังเช่นที่เปลี่ยนจาก 1 G เป็น 2G) วิศวกรระบบยังคงมุ่งพัฒนา ปรับเปลี่ยนลักษณะและรูปแบบต่อไปโดยเน้นที่การเพิ่มสมรรถนะของระบบ 2G ให้สูงขึ้นจึงกลายเป็น 2.5G ทั้งนี้ระบบในยุค 2.5G มีความสามารถรองรับการสื่อสารที่เป็นเสียงพูดการสื่อสารข้อมูลด้วยความเร็วที่สูงขึ้น(สูงถึงประมาณ 144 Kbps) ระบบโทรศัพท์ในยุคนี้มีคุณลักษณะและความมุ่งหมายที่สำคัญ ประกอบด้วย เทคโนโลยี
เป็นแบบดิจิตอล เซลลูล่าร์ (PCS/WLL,…)
การจัดเซล เป็นแบบ มาโครเซล/ไมโครเซล/พิโกเซล
มาตรฐาน มีหลายมาตรฐานที่สำคัญ ๆ เช่น N-CDMA/ W-CDMA
ยุคที่ 3 (3G) ค.ศ. 2000- ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคที่ 3 หรือ 3G นี้เป็นยุคที่เรียกว่า ช่วงขยับขยาย (Expansion Stage) การพัฒนามุ่งเน้นที่การรองรับเสียงพูด การสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง (-384 Kbps จนถึง -2Mbps) และบริการสื่อประสม
เทคโนโลยีที่อยู่ในยุค 3G มีการพัฒนาขึ้นมาหลากหลาย เช่น IMT-2000/ UMTS, M-ISDN (Mobile ISDN) และ W-CDMA โดยมีคุณลักษณะและความมุ่งหมายที่สำคัญ ประกอบด้วย เทคโนโลยี
เป็นแบบดิจิตอล เซลลูล่าร์
การจัดเซล เป็นแบบ Umbrella/ Macro/ Micro/ Pico/ Spot Cell
เครื่องลูกข่าย ตัวเครื่องลูกข่ายมีลักษณะเป็นแบบมัลติโหมด มัลติแบนด์ (Multi-Mode,Multi-Band)
การใช้งาน -การสื่อสารข้อมูลและเสียงที่มีคุณภาพสูงร่วมกัน (รับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงขึ้น คุณภาพของเสียงชัดเจน สดใสขึ้น และสามารถใช้บริการสื่อประสมใน ลักษณะเคลื่อนที่ได้)
ยุคที่ 4 (4G) ค.ศ. 2010- ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคที่ 4 หรือ 4G นี้เป็นยุคที่เรียกว่า ช่วงเติบใหญ่ (Matured Stage) การพัฒนามุ่งเน้นที่การรองรับเสียงพูด การสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงมากขึ้น (มากกว่า -2Mbps) การรับส่งภาพเคลื่อนไหว และบริการสื่อประสม เทคโนโลยีที่นำมาใช้จะเป็น M-BISDN (Mobile-Broadband ISDN) เพื่อรองรับการใช้งานด้านต่าง ๆ เช่น การให้บริการเข้าถึงข่าวสารข้อมูลเพื่อการศึกษา การพัฒนา และการเพิ่มพูนความรู้ Wireless-Wireline and Broadband Transparency และ Knowledge-based Network Operation เป็นต้น อย่างไรก็ดีการสื่อสารไร้สายในยุคที่ 4 หรือ 4G นั้นอาจจะมีรูปแบบ ลักษณะและความมุ่งหมายที่แตกต่างไปจากนี้ก็ได้ เนื่องจากจำเป็นต้องรอผลจากการพัฒนาของยุคที่ 3 หรือ 3G ที่เพิ่งเริ่มต้นมาได้ไม่นานนัก ว่าจะสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด
8.2 ประเทศไทยอยู่ในบุคคลสื่อสารแบบเคลื่อนที่ไร้สายยุคใดด้วยเหตุผลใด พร้อมยกตัวอย่างสื่อเทคโนโลยีที่ใช้ สนับสนุนการสื่อสารมัลติมีเดียในปัจจุบันของประเทศไทย (เฉพาะการสื่อสารเคลื่อนที่ไร้สาย)
ตอบ ประเทศไทยอยู่ในยุคการสื่อสารแบบเคลื่อนที่ไร้สาย ยุค 2.5G เหตุผล การพัฒนาการสื่อสารแบบเคลื่อนที่ไร้สายได้มีการพัฒนามาตั้งแต่ยุค 1G, 2G และมุ่งสู่ยุคปัจจุบันคือ 2.5G เพราะการพัฒนาเทคโนโลยีจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุดและพัฒนาให้ดีกว่าเดิมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองผู้ใช้ให้ได้รับความสะดวกสบายสูงสุด ในการดำรงชีวิต
ตัวอย่างชื่อเทคโนโลยีที่สนับสนุนการสื่อสารมัลติมีเดีย ในปัจจุบันของประเทศไทย เช่น WCDMA และ EDGE (Enhanced data rates of global evolution)